เอซี มิลาน เสียตำแหน่งจ่าฝูงคืนให้ นาโปลี อีกครั้ง หลังได้เพียงเสมอ ยูเวนตุส

Browse By

ค่ำคืนที่สนามซาน ซิโร่ เต็มไปด้วยความตึงเครียดและอารมณ์ที่หลากหลาย เมื่อ เอซี มิลาน เปิดบ้านทำได้เพียงเสมอกับยูเวนตุส 1-1 ในเกมที่เต็มไปด้วยจังหวะเข้มข้นและการต่อสู้เชิงแท็กติกตลอด 90 นาที ผลเสมอในเกมนี้ทำให้ “ปีศาจแดงดำ” ต้องเสียตำแหน่งจ่าฝูงกัลโช่ เซเรีย อา ให้กับนาโปลีอีกครั้ง หลังจากทั้งสองทีมกำลังขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในช่วงต้นฤดูกาล และความผิดหวังของแฟนบอลมิลานในคืนนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงความจริงอันโหดร้ายของฟุตบอล — ว่าความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจเปลี่ยนชะตาของทั้งฤดูกาลได้

ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มเกม เอซี มิลาน เป็นฝ่ายที่ครองบอลมากกว่าและพยายามเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องตามสไตล์ของสเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือที่เน้นเกมบุกและการเคลื่อนที่อย่างมีระบบ พวกเขาเริ่มต้นอย่างมั่นใจ โดยมีราฟาเอล เลเอา และโอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นคู่หูในแนวรุกที่สร้างปัญหาให้แนวรับของยูเวนตุสหลายครั้ง แต่ความแน่นอนในจังหวะสุดท้ายยังคงเป็นสิ่งที่ขาดหายไป

ในนาทีที่ 28 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮกันลั่น เมื่อเตโอ เอร์นานเดซ หลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนเปิดบอลโค้งเข้ากลางให้ชิรูด์โฉบเข้ามาโหม่งตุงตาข่าย เป็นประตูที่ทำให้ซาน ซิโร่แทบระเบิด เสียงเชียร์ “มิลาน มิลาน” ดังไปทั่วสนาม แต่ความสุขอยู่ได้ไม่นาน เพราะเพียง 10 นาทีต่อมา ยูเวนตุสก็มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ดูเหมือนไม่มีอันตราย เมื่ออาเดรียง ราบิโอต์ แทงทะลุช่องให้เฟเดริโก้ เคียซ่า หลุดไปยิงผ่านมือไมค์ เมญ็อง เข้าประตูอย่างเยือกเย็น เกมกลับมาเสมอ 1-1 ก่อนหมดครึ่งแรก

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังคงเล่นด้วยความระมัดระวัง มิลานพยายามบุกหนักเพื่อเอาชัยชนะในบ้าน ขณะที่ยูเวนตุสถอยลงมารับแน่นและอาศัยเกมสวนกลับเร็วเป็นอาวุธ ซึ่งต้องยอมรับว่าแนวรับของ “ม้าลาย” ภายใต้การคุมทีมของมัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ยังคงแข็งแกร่งและมีระเบียบแบบฉบับของพวกเขา แม้มิลานจะครองบอลได้ถึง 63% แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับที่ประกอบด้วยเบรเมอร์และดานิโล่ได้เลย

สิ่งที่แฟนบอลพูดถึงมากที่สุดหลังจบเกมคือ “ความเฉียบคม” ที่หายไปของแนวรุกมิลาน แม้จะสร้างโอกาสได้หลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายมักพลาดไปเพียงนิดเดียว โดยเฉพาะลูกยิงของเลเอาในช่วงท้ายเกมที่ชนเสาแบบน่าเสียดาย จังหวะนั้นทำให้ผู้จัดการทีมปิโอลี่ถึงกับยกมือขึ้นกุมหัว เพราะรู้ดีว่าหากบอลพุ่งเข้าประตู มิลานจะยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้ต่อไป

หลังจบเกม ปิโอลี่ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าผสมระหว่างความเสียดายและความมั่นใจว่า “เราเล่นได้ดีในหลายช่วงของเกม แต่ฟุตบอลคือเรื่องของรายละเอียด ยูเวนตุสเป็นทีมที่มีประสบการณ์และรู้ว่าจะต้องเล่นยังไงในสถานการณ์แบบนี้ ผมภูมิใจในนักเตะของผม แต่เราต้องเด็ดขาดกว่านี้ในจังหวะสุดท้าย”

ทางฝั่งยูเวนตุส แม้จะเก็บได้เพียงแต้มเดียว แต่ก็ถือว่าผลงานน่าพอใจ เพราะการบุกมาเยือนซาน ซิโร่ไม่ใช่เรื่องง่าย เคียซ่าผู้ทำประตูตีเสมอให้ทีมกล่าวว่า “เรามีแผนการเล่นที่ชัดเจน เรารู้ว่ามิลานจะบุกใส่ และเราต้องรอจังหวะสวนกลับ เมื่อโอกาสมาถึง เราทำได้สำเร็จ การได้แต้มจากที่นี่ถือว่ามีค่ามาก” คำพูดของเขาแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและวินัยทางแท็กติกของทีมเยือนที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์แบบอัลเลกรี

ผลเสมอนี้ทำให้มิลานมี 25 คะแนนจาก 11 นัด ถูกนาโปลีแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง หลังทีมจากเมืองเนเปิลส์คว้าชัยได้ในเกมล่าสุดด้วยฟอร์มอันร้อนแรง ภาพในตารางคะแนนตอนนี้ชัดเจนว่าการลุ้นแชมป์เซเรีย อา ฤดูกาลนี้จะเข้มข้นยิ่งกว่าที่เคย เพราะทั้งสามทีมใหญ่อย่างนาโปลี มิลาน และอินเตอร์ ต่างมีฟอร์มที่ใกล้เคียงกันและพร้อมเบียดกันในทุกสัปดาห์

สิ่งที่มิลานต้องรีบแก้ไขคือความสม่ำเสมอในการเก็บชัยชนะ โดยเฉพาะในเกมใหญ่ที่มักจะเป็นตัวตัดสินความสำเร็จของฤดูกาล เพราะในขณะที่พวกเขามีเกมรุกที่จัดจ้าน แต่การเสียสมาธิเล็กน้อยในแนวรับกลับกลายเป็นจุดที่คู่แข่งสามารถลงโทษได้ทันที นอกจากนี้ ความกดดันจากการเป็นจ่าฝูงยังทำให้บางจังหวะนักเตะเล่นด้วยความระมัดระวังเกินไปจนขาดความกล้าในจังหวะสุดท้าย

แฟนบอลในซาน ซิโร่ยังคงให้กำลังใจทีมแม้จะผิดหวัง เพราะพวกเขาเห็นถึงความทุ่มเทของนักเตะในสนาม ทุกคนสู้เต็มที่จนถึงวินาทีสุดท้าย แม้ผลจะไม่เป็นใจแต่สปิริตของทีมยังคงแข็งแกร่ง ความรู้สึกนี้สะท้อนออกมาในเสียงเพลง “Forza Milan” ที่ดังขึ้นทั่วสนามหลังจบเกม เป็นภาพที่ชวนให้ซึ้งใจในวัฒนธรรมฟุตบอลของเมืองมิลานที่เต็มไปด้วยความรักและความภักดีต่อสโมสร

ในมุมของนักวิเคราะห์ฟุตบอล ผลเสมอครั้งนี้ไม่ใช่หายนะสำหรับมิลาน แต่เป็น “สัญญาณเตือน” ที่สำคัญว่าการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้จะไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา ทีมต้องเรียนรู้ที่จะปิดเกมให้ได้เมื่อมีโอกาส และต้องรักษาความเยือกเย็นในจังหวะสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่นาโปลีทำได้ดีกว่าในตอนนี้ การเสียตำแหน่งจ่าฝูงจึงอาจเป็นแรงกระตุ้นให้ทีมกลับมามุ่งมั่นมากขึ้นในเกมต่อไป

สื่ออิตาเลียนรายงานว่าภายในห้องแต่งตัวหลังเกม ปิโอลี่ได้ปลอบใจลูกทีมพร้อมกล่าวว่า “อย่าผิดหวังเกินไป เราเล่นได้ตามแผนและควบคุมเกมได้เกือบทั้งหมด เพียงแต่ยูเวนตุสมีจังหวะเดียวที่เฉียบขาดกว่า เราจะกลับมาชนะอีกครั้งในสัปดาห์หน้า” คำพูดนั้นกลายเป็นแรงผลักดันให้ทีมเตรียมตัวสำหรับเกมถัดไปกับลาซิโอ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งศึกสำคัญในการรักษาสมดุลของการลุ้นแชมป์

ยูเวนตุสในตอนนี้อาจไม่ได้อยู่ในช่วงพีกสุดเหมือนยุคทอง แต่ความเป็น “ทีมใหญ่” ยังชัดเจนในทุกจังหวะของเกม พวกเขารู้จักวิธีควบคุมสถานการณ์ รู้ว่าจะถ่วงเวลาอย่างไร และรู้ว่าจะเล่นอย่างไรให้คู่แข่งหมดแรงไปเอง อัลเลกรีคือผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนเกมลักษณะนี้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ทีมจากตูรินยังคงเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับทุกทีมในลีก

หากมองในภาพรวมของฤดูกาล เอซี มิลาน ยังคงเป็นทีมที่มีศักยภาพสูงสุดทีมหนึ่งในยุโรป พวกเขามีทั้งความเร็วจากเลเอา ความแข็งแกร่งจากชิรูด์ และความนิ่งของไมค์ เมญ็อง แต่สิ่งที่ขาดคือ “ความคมชัดในจังหวะสุดท้าย” ซึ่งอาจต้องพึ่งการเสริมทัพในตลาดนักเตะเดือนมกราคม หากสโมสรต้องการต่อสู้กับนาโปลีและอินเตอร์จนถึงปลายฤดูกาล

ในมุมมองของแฟนบอลที่ติดตามวิเคราะห์เกมผ่านแพลตฟอร์มอย่างufabet บอลชุดออนไลน์ ราคาดีที่สุด เกมนี้ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของการอ่านแท็กติกสองทีมใหญ่ที่มีสไตล์ต่างกัน มิลานเป็นทีมที่เน้นเกมรุกและการครองบอล ส่วนยูเวนตุสใช้ประสบการณ์และเกมรับที่แน่นหนาในการต่อสู้ การเสมอกันของทั้งคู่สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของฟุตบอลอิตาลีที่ยังคงมีความเข้มข้นในเชิงแท็กติกมากที่สุดลีกหนึ่งของโลก

แฟนบอลบางส่วนมองว่าแม้ผลเสมอจะทำให้มิลานหล่นจากจ่าฝูง แต่ในแง่จิตใจ ทีมยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะสู้ต่อ การที่พวกเขายังคงไม่แพ้ใครใน 5 เกมหลังสุดถือเป็นสัญญาณที่ดี และการได้กลับไปฝึกซ้อมพร้อมวิเคราะห์จุดอ่อนจากเกมนี้จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในสัปดาห์ต่อไป ปิโอลี่เองก็ยืนยันในเรื่องนี้ว่า “เราจะใช้ความผิดหวังในวันนี้เป็นพลัง เราเคยผ่านช่วงเวลายากกว่านี้และกลับมาชนะได้เสมอ”

ทางด้านนาโปลีซึ่งกลับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงหลังคว้าชัยชนะในเกมล่าสุดกับซาสซูโอโล่ กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ทีมของรูดี้ การ์เซีย แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่ไหลลื่นและมีประสิทธิภาพสูงเหมือนในฤดูกาลก่อน โดยเฉพาะการประสานงานของควารัตสเคเลียและโอซิมเฮนที่ยังคงเป็นคู่หูอันตรายที่สุดในลีก การแย่งชิงตำแหน่งระหว่างนาโปลี มิลาน และอินเตอร์ จึงกลายเป็นสามเส้าแห่งศึกที่คาดเดาไม่ได้เลยว่าจะจบอย่างไร

ในอีกมุมหนึ่ง นักวิเคราะห์ฟุตบอลในอิตาลีมองว่าการที่มิลานหล่นจากจ่าฝูงอาจช่วยลดแรงกดดันจากสื่อและแฟนบอล เพราะในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมที่ขึ้นนำเร็วเกินไปมักต้องแบกรับความคาดหวังสูงจนส่งผลต่อฟอร์มการเล่นในช่วงปลายฤดูกาล การอยู่ในตำแหน่งผู้ตามอาจเป็นข้อได้เปรียบของมิลานในการกดดันนาโปลีจากด้านหลัง

ขณะเดียวกัน ความสมดุลในแดนกลางยังเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ปิโอลี่ต้องเร่งแก้ไข เพราะในเกมกับยูเวนตุส การขาดอิสมาแอล เบนนาเซอร์ ที่บาดเจ็บส่งผลให้มิลานขาดตัวคุมจังหวะเกมอย่างเห็นได้ชัด การพึ่งพาเพียงซานโดร โตนาลี หรือมูซา ก็ยังไม่เพียงพอเมื่อเจอกับทีมที่เล่นเกมรับแน่นและสวนกลับเร็ว นี่คือสิ่งที่โค้ชต้องวางแผนปรับปรุงก่อนถึงเกมใหญ่กับโรม่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

แม้จะเสมอในเกมนี้ แต่บรรยากาศหลังเกมยังคงเต็มไปด้วยความหวัง แฟนบอลหลายพันคนยังอยู่ในสนามเพื่อปรบมือให้ทีมระหว่างที่นักเตะเดินออกจากสนาม เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่แฟนบอลมิลานมีต่อสโมสร และความสัมพันธ์ระหว่างทีมกับผู้สนับสนุนที่เหนียวแน่นไม่แพ้ที่ใดในโลก

ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว ปิโอลี่ได้กล่าวถึงแรงสนับสนุนนี้ว่า “แฟนบอลของเราคือพลังสำคัญที่สุด พวกเขาไม่เพียงเชียร์เรา แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เราสู้ในทุกเกม ผมสัญญาว่าทีมนี้จะกลับมาชนะอีกครั้ง และเราจะสู้เพื่อแชมป์จนถึงนัดสุดท้าย”

คำพูดนั้นเรียกเสียงปรบมือจากสื่อมวลชนในห้องสัมภาษณ์ และกลายเป็นประโยคที่แฟนบอลแชร์กันทั่วโซเชียลมีเดียในเช้าวันรุ่งขึ้น “เราจะสู้จนถึงนัดสุดท้าย” กลายเป็นสโลแกนใหม่ของแฟนมิลานในโลกออนไลน์

ในภาพรวมของลีกกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลนี้ การลุ้นแชมป์กำลังกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากช่วงเวลาที่ทีมเดียวมักครองความยิ่งใหญ่ มิลาน นาโปลี และยูเวนตุส ต่างมีจุดแข็งเฉพาะตัว และนี่คือสิ่งที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกหันกลับมาจับตาฟุตบอลอิตาลีอีกครั้งอย่างตื่นเต้น

สำหรับเอซี มิลาน การเสมอกับยูเวนตุสแม้จะทำให้เสียตำแหน่งจ่าฝูง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหวังในการลุ้นแชมป์ลดลง ตรงกันข้าม มันอาจเป็นแรงกระตุ้นให้ทีมกลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม และด้วยระบบทีมที่ลงตัว ความเชื่อมั่นจากแฟนบอล และความกระหายในชัยชนะ ทีมปีศาจแดงดำยังคงเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะยืนหยัดบนจุดสูงสุดในตอนจบฤดูกาลอย่างแน่นอน

และในสายตาของแฟนบอลทั่วโลก รวมถึงผู้ติดตามการวิเคราะห์เกมอย่างใกล้ชิดใน ทางเข้า ufabet ออโต้ เข้าเร็วไม่สะดุด ทุกคนต่างเห็นพ้องว่า เส้นทางลุ้นแชมป์ของกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น การเสียตำแหน่งจ่าฝูงในวันนี้ อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ของ “เอซี มิลาน” ในวันพรุ่งนี้.